วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

จิบรานุกรม : สเลอปี้ …แก้วแรกของโลก!!


สเลอปี้ แก้วแรกของโลก!!

แวะ 7 – 11 ต้องโฉบไปกดสเลอปี้ทุกครั้ง
เป็นเครื่องดื่มเกล็ดหิมะประจำโลโก้ของ  7-11 ไปแล้ว
ใครต่อใครต้องติดใจในความฉ่ำปาก เมื่อดูดก็แอบจี๊ดขึ้นสมอง
แต่ที่มาของ slurpee ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1950!!!
เมื่อ “โอมาร์ เนดลิตอน” นักคิดหัวใสเกิดอารมณ์เสีย
เพราะเครื่องทำโซดาดันพังพินาศระหว่างบรรจุขวด
ก็เลยนำน้ำโซดาที่เหลือแช่ในตู้เย็นรอขายในวันรุ่ง
ปรากฏเรื่องบังเอิญเกิดสูตรลับขึ้นหลังจากเปิดตู้เย็น
เพราะน้ำโซดากลายเป็นเกล็ดละเอียดแต่ไม่จับตัวกัน!!
ไม่รอช้า he จึงเติมน้ำตาลในเกล็ดโซดาเพิ่มความหวาน
แล้วกะเกณฑ์เพื่อนฝูงทั่วทั้งซอยมาลองชิม
ทุกคนถึงกับคลั่งไคล้ในรสชาติเกล็ดหิมะ

นาย”โอมาร์”ปลื้มใจและใฝ่เป็นเถ้าแก่น้อยนับแต่นั้น
คิดค้นเครื่องทำเกล็ดหิมะโดยนำตู้แอร์รถยนต์เป็นตัวตั้ง!!
เพราะมีกลไกหมุน ๆ กวน ๆ ทำให้น้ำแข็งไม่แข็งตัว
และเรียกสิ่งประดิษฐ์ของตัวเองอย่างภาคภูมิว่า “ Slushy

และที่สุด slushy น้ำหวานโซดาเกล็ดหิมะรู้ถึงหู 7-11
ผู้บริหารรีบแจ้นซื้อลิขสิทธิ์และขอเปลี่ยนชื่อเป็น Slurpee
เพราะ Slurp แปลว่า ดื่มจนน้ำติดหลอด ถือเป็นเคล็ด
ส่วน PEE คำลงท้าย เพื่อให้กุ๊กกิ๊ก โดนจริตคนซื้อนั่นเอง!





ขอกำลังใจ ด้วยการกดเป็นเพื่อนกับ"จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์"  http://www.facebook.com/drinkfamily
แล้วเราสัญญาจะสรรหาเรื่องดี ๆ มานำเสนออย่างต่อเนื่อง
ปล.ตอนนี้ facebook ใจร้ายมาก มัน block เราโดนไม่ทราบสาเหตุ
ขอแรงเพื่อน ๆ ช่วย add firend ด้วยนะคะ 
เพราะอยากให้ได้อ่านเรื่องดี ๆ กันเยอะ ๆ...ขอบคุณคะ  


Source BY WIKIPEDIA,SLURPEE.COM
รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์ 


วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

จิบรอบโลก : จิบนี้ใช้ SEX นำทาง!!!

 จิบนี้ใช้ SEX นำทาง!!!


น้ำปลุกเซ็กส์ของซุปตาร์!!
เทรนด์ใหม่มาแรงเขย่าตลาดน้ำเมืองมะกัน
เมื่อ “ NEURO”เครื่องดื่มยี่ห้อโคตรดัง ณ.บัดนาว
เปิดซิง “ NEUROGASM ” แค่ชื่อก็ถึงจุดสุดยอด

เพราะนี่คือ น้ำปลุกเซ็กส์ให้ไอ้จ้อนไอ้จู๋ตื่นตัวตลอดเวล์
มีสาร L-citrulline  กระตุ้นเลือดให้หมุนเวียน
สร้างความคึกคักเวลาลงสมรภูมิ make Love เสมอ
ส่วนรสชาติเหมือนน้ำทับทิมผสมบลูเบอร์รี่ เติมโซดาให้ซ่าสะใจ

แต่เด็ดสุด คือ กลยุทธ์ตลาดของน้ำยี่ห้อนี้
ทั้งประโยคเด็ดข้างขวด “ห้ามต่ำกว่า 12 ดื่มเพราะ X
ก็ยิ่งสร้างกระแสให้น้ำปรุงปลุกเซ็กส์ถูกท้าทายจากวัย TEEN มากขึ้น
ทั้งสามารถขายน้ำปลุกเซ็กส์ขึ้นบนดินไม่ต้องหลบซ่อน
เรียกว่า เกลื่อนซุปเปอร์มาร์เก็ต เกร่อทุกหอสมุดในสหรัฐ

และที่สำคัญ
ถูกจัดวางเป็นน้ำดื่มสำหรับตัวแม่ระดับ HOLLYWOOD
ทั้ง paris Hilton , lady gaga ดริ๊งค์แล้วทั้งนั้น
เพราะฉะนั้น NEURO คือที่สุดของน้ำปรุงเซ็กส์ของซุปตาร์







ไหวมั้ยอ่ะ….สเปิร์มดริ๊งค์ ????
สะดุ้งกันเลยที่เดียวกับ SEX DRINKS ตัวนี้
นี่คือ POPSY เหล้าหวานรสวนิลลาผสมคาราเมล
ปริมาณแอลกอฮอลล์ 15 เปอร์เซ็นต์..หนักเอาเรื่อง!
จะขายแบบเดิม ๆ ก็กลัวคนจะเซ็งหรือเบื่อ-มั้ง???
ก็เลยจัดเหล้าบรรจุถุงเป็นตัวอสุจิหน้าตาบ๊องแบ๊ว
อยากจะชิมต้องกัดปลายหางหรือหัวแล้วดูด-อึ๊ย!!

ผลปรากฏสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นทั้งเยอรมัน(ขายที่นั่น)
โดนด่ากระจายจากบรรดาผู้ปกครองหัวโบราณ
แต่ผู้ผลิตไม่แคร์ เตรียมปล่อยสเปิร์มดริ๊งค์ของจริง
รสเยอะกว่า ตัวใหญ่กว่า และ ดูดสะใจกว่า!!






ชาพรหมจรรย์ จาก สาวคัพ C !!!
จากตำนานจีน “ชาเสน่หา”สุดลึกลับ
เชื่อว่ามวลหมู่นางฟ้าจากสวรรค์ชั้น 7
เด็ดยอดใบชาอ่อนจากริมฝีปากของนาง
เมื่อชงชา กลิ่นหอมรัญจวนพวยพุ่งถึงชั้นเมฆ
ซึ่งกลิ่นชวนเสน่หาเยี่ยงนี้ ทำให้ชีวิตเป็นอมตะ



แต่ปัจจุปัน...
มีบริษัทชาจากเมืองเหอหนัน ประเทศจีน
หากินกับเรื่องเล่าปรัมปรา ค้นหาสาวพรหมจรรย์
เป็นพนักงานสุดพิสดารเพื่อใช้ปากเด็ดใบชา
เงื่อนไข คือ ต้องสะอาดสะอ้าน ทุกซอกมุมโดยเฉพาะปาก
เด็ดสุด คือ ต้อง สวย เซ็กส์ หน้าอกคัพ C
เพราะใบชาที่เด็ดได้ต้องเหน็บไว้ที่ซอกอก
ผ่านการอบกลิ่นอายพรหมจรรย์เพื่อรสชาติล้ำลึก!!!
ฟังดูหื่น ๆ ยังไงพิกล แต่นางฟ้าเหล่านี้ไม่แคร์
เพราะรายได้งามทีเดียววันละ 2500 บาท!!!!



รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์ 





จิบอดีต : ต้นตำรับ…ปฎิทินสยิว!!


ต้นตำรับ…ปฎิทินสยิว!!

ซื้อเหล้าแจกปฎิทินเซ็กส์โด่งดังสุดพลังจาก “แม่โขง”
แต่ต้นตำรับปลุกเสือป่าม้าพยศให้บุรุษตาแตก
ต้องยกนิ้วให้น้ำเมายี่ห้อ “ไก่แดง” เมื่อปี 2519
และ ศิริขวัญ นันทศิริ คือดาราไทยใจกล้าแห่งยุค
ยืนโพสท่าเป็นอินเดียนแดงแบบไม่แคร์สื่อ!!!!!
พร้อมประโยคเด็ด “ ยิ่งดื่ม ยิ่งมันส์!!!
เรียกน้ำย่อยเหล่าคอทองแดงชนิดทิ่มแทงหัวใจ

หลังจากนั้น….
วัฒนธรรมซื้อเหล้าแถมปฎิทินนู้ดก็เบ่งบาน
และ”แม่โขง”ก็มาแรงแซงโค้ง”ไก่แดง”ในที่สุด



รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์

จิบรอบโลก : 3 สปาพาดริ๊งค์!!!!


3 สปาพาดริ๊งค์!!!!

1.สปาไวน์….จิบนี้มีเคลิ้ม!!
อยากจิบไวน์ให้เคลิบเคลิ้มชวนอารมณ์เตลิด
ต้องเหาะไปเกาะญี่ปุ่นเพราะที่โน่นมีสปาไวน์
เรียกได้ว่าทั้งอาบ ทั้งแช่ ทั้งจิบกันแบบ Unlimited




Hakione Yunessun” คือรีสอร์ทสุดฮอตเรื่องสปา
ที่นี่มีสปา VERY แปลกให้แฟนพันธุ์ออนเซนได้ท้าทาย
แต่เป็นพระเอกของที่นี่ต้องยกให้ “สปาไวน์แดง”
เนื่องจากใช้ไวน์แดง BEAUJOLAIS NOUVEAU
เป็นสายพันธุ์ที่ชาวซามูไรนิยมจิบกันมากที่สู๊ด
ซึ่งต้องเทไวน์กว่า 1000 แกลลอนต่อวันให้แช่ตัว
นอกจากนี้ยังมีบริกรสุดสวยสุดหล่อคอยเสริฟ์ไวน์
กะให้เคลิบเคลิ้มหยดเยิ้มกันกลางสระกันเลยทีเดียว




สาเหตุสำคัญที่หนุ่มสาวญี่ปุ่นนิยมชมชอบสปาไวน์
เชื่อว่าแช่ไวน์แดงทำให้ผิวเปล่งปลั่งเหมือนคลีลิโอพัตรา
แต่เด็ดสุดคือเชื่อว่าไวน์แดงเป็นเคล็ดลับกระตุ้นอารมณ์สยิว
เพราะไวน์แดงมีสารเร้นลับช่วยปลุกเร้าเลือดให้พลุ่งพล่านนั่นเอง!!
ราคาค่างวดแช่สปาไวน์องุ่นเฉียด 1200 บาทต่อคน!!



2.สปาช็อกโกแลต...เพิ่มพลัง SEX!!
ความลับที่ไม่ลับของช็อกโกแลต
คือ มีสารบางตัวกระตุกอารมณ์รักให้คึกคัก
บางคนรู้สึกเหมือนตกในห้วงความรักตลอด
โดยเฉพาะช็อกโกแลตดำเอาแบบขมปี๋นั่นแหละเด็ด!!
จึงไม่แปลกที่ช็อกโกแลตเป็นตัวแทนของวาเลนไลน์
จึงไม่แปลกที่ช็อกโกแลตเป็นตัวแทนของพลัง LOVE
และไม่แปลก….
หากมีคนหัวใสคิดจะเปิดสปาช็อกโกแลตเอาใจหนุ่มสาว!!





สปาช็อกโกแลตเปิดให้ทั่วทั้งยุโรปและญี่ปุ่น
แต่ดังสุด ๆ ต้องไปแช่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิต
เพราะประเทศนี้คือต้นตำรับช็อกโกแลตระดับโลก




เริ่มต้นอาบน้ำอุ่น ๆ 3o นาที
ตามด้วยนวดตัวน้ำมันโกโก้  45 นาที
ปิดท้าย 30 นาทีแช่ตัวในช็อกแลตและวิปปิ้งครีม!!
เบ็ดเสร็จ 105 นาทีต้องจ่ายเงินเฉียด 10000 บาท!!
เพื่อแลกกับความสุขให้ไฟสนุกลุกพรึ่บ-เท่านั่นเอง!!



3.สปาไวน์เบียร์….จิบนี้มีมึน!!
มาเยือน “กรุงปราก” ….
เมืองหลวงสุดโรแมนติกแห่งสาธารณรัฐเช็ก
ต้องแวะสปาเบียร์ ว่ากันว่าเป็นกิจกรรมห้ามพลาด
เพราะที่นี่คือต้นตำรับของสปาฟองเบียร์ที่ขึ้นชื่อที่สุด
ทุกโรงแรมจะเล็ก จะใหญ่ในย่าน Slezke Beskydy ต้องมี
ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เบียร์ Bier Bottich เป็นสายพันธุ์พิเศษ
ทำให้น้ำเบียร์ที่สีอำพันสวยงาม หอมกลิ่นดอกฮอบส์อ่อน ๆ
และที่สำคัญหากอดใจไม่ไหว ก็ยกซดได้เลย !!!!!!




บริการสปาเบียร์มีหลากหลายบริการให้เลือกสรรคะ
อยากลัลล้าแบบหมู่ ๆ ก็เชิญอ่างสปาจากุซซี่
แต่หากอยากโรแมนติกสวีทตี้แบบสองต่อสอง
ก็เชิญแช่ฟองเบียร์ให้ตัวเบียดกันในถังไม้โอ๊ค
ซึ่งจะแช่แว่บในน้ำเบียร์อุ่น ๆ ที่อุณหภูมิ 37 องศา





เชื่อกันว่าการให้เบียร์ซึมซาบเข้ารูขุมขน
จะให้หลอดเลือดและผิวพรรณเปล่งปลั่ง
เพื่อให้ผู้ใช้บริการตื่นตัวและสดชื่นกว่าที่เคย!!!
ราคาค่าบริการมีตั้งแต่ 400 ไปจนถึง 2000 บาท
ตามเกรดของโรงแรม และ ชื่อชั้นของเบียร์!!!!


รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์














วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

จิบอดีต : เปิดทำเนียบ สาวเช็คเนสกาแฟ!!!

เปิดทำเนียบ สาวเช็คเนสกาแฟ!!!

“มาเชคกันให้สนุก
มาเชคกันให้เย็นฉ่ำ เชค เชค เชค
คือ เพลงฮิตจากปรากฏการณ์สุดฮอต
ร้อนระอุจนจอทีวีแทบระเบิดระเบ้อ
และต้องย้อนกลับไปเมื่อปี  2532 - 2538
เป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยลั้ลลากับ “สาวเชค”










“สาวเชค” คือพรีเซ็นเตอร์สุดเซ็กซี่กับลีลา X แตก
เต้นสะเด็ดสะเด่าเพื่อเขย่ายอดขายเนสกาแฟ
โดยมี “กระบอกเชค” พลาสติกเขย่ากาแฟให้กลมกล่อม
เป็นอีกไฮไลท์ที่คอกาแฟยุคนั้นพลาดไม่ได้!!
เปิดตัวปรากฏการณ์เซ็กส์เขย่าเมือง
กับสาวเชคคนแรกกับ “อังคณา ทิมดี”
ด้วยสัดส่วน 34-22-36 ทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูด
ดังนั้น เนสกาแฟต่อยอดไอเดียสาวเชคแบบปีต่อปี








ปี 2534 แสงระวี เป็นปีที่กระแสกระหึ่มสุด ๆ
เกิดปรากฏการณ์คนใช้รถบนทางด่วนแตกตื่น
เมื่อเห็นป้าย billboard โชว์แก้มก้นไซส์เบิ้มของสาวเชค!!!










ปี 2535 หน่อย บุษกร สาวเชคผิวสีเข้มคนแรก
แต่คนไม่ปลื้ม เพราะ SHE ยัง NO NAME
ลีลาการ dance ก็แข็งเป็นหุ่นกระบอก
ที่สำคัญ LOW SEX APPEAL สำหรับสายตาหนุ่มไทย
ดังนั้น ยอดขายนิ่งสนิท ณ.จุดนั้น!!

ปี 2536 เพชรรัตน์ ศรีแก้ว ดีกรีรองนางสาวไทย
ลีลาการระบำจัดว่าเลอเลิศ แต่อ่อนภาษาไทย
ทำให้สาวเชคคนที่ 4 ยังห่างไกลกับยอดที่เนสกาแฟตั้งเป้า









ปี 2537 ยู่ยี่ สาวผิวเข้มคนที่ 2 ของเนสกาแฟ
ต้องบอกว่าชั่วโมงนั้นนาง HOT มั๊ก ๆ 
ทุกสื่อ ทุกสำนัก ฟันธง ให้นางเป็นสาวเซ็กซี่
เนสกาแฟจึงทุ่ม 1.2 ล้าน จ้างเป็นสาวเชค
ปรากฏนางแบบดังแต่กระบอกเชคดับ!!





จนกระทั้งปี 2538 …..
“เฮเลน ปทุมรัตน์”” คือ สตรีที่ปิดท้ายทำเนียบสาวเชค!!!!
หลังจากหนังโฆษณาพุ่งสู่สายตาคนไทยทั้งประเทศ
SHE ขอ SAY NO ไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ กับ เนสกาแฟ
ลงทุนไปกว่า 150 ล้านบาทแต่กลับใช้ได้ไม่เต็มเม็ด
จึงเป็นฉนวนร้าว และ ประกาศยุติสาวเชคนับแต่นั้น!!








ขอกำลังใจ ด้วยการกดเป็นเพื่อนกับ"จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์"  http://www.facebook.com/drinkfamily
แล้วเราสัญญาจะสรรหาเรื่องดี ๆ มานำเสนออย่างต่อเนื่อง
ปล.ตอนนี้ facebook ใจร้ายมาก มัน block เราโดนไม่ทราบสาเหตุ
ขอแรงเพื่อน ๆ ช่วย add firend ด้วยนะคะ 
เพราะอยากให้ได้อ่านเรื่องดี ๆ กันเยอะ ๆ...ขอบคุณคะ  



CREDIT SOURCE : TV DIGEST MAGAZINE
CREDIT PIXX : 70-90 memory blogspoy.com , darthzman
รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

จิบค็อกเทล : 3 ดริ๊งค์ฉ่ำปาก รับลมร้อน!!

 3 ดริ๊งค์ฉ่ำปาก รับลมร้อน!!

Mojito ซ่าใสรับ Summer!!
Mojito เป็นค็อกเทลรับลมร้อนสุดคลาสสิค
เกิดมาเพื่อดับกระหายในวันที่อุณหภูมิพุ่งกระฉูด
กำเนิดจากบาร์แห่งหนึ่งใน ฮาวานา,ประเทศคิวบา
เมืองที่ขึ้นชื่อว่าจัดจ้านด้านสีสันแห่งวัฒนธรรม
และร้อนระอุทุกวันเพราะอยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตร

เสน่ห์ของโมฮิโต คือ ความซ่า มีกลิ่นของสาระแหน่
หรือพืชตระกูลมินท์ เช่น สเปียร์มินท์ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น
เพราะความซ่า หอมของมินท์จึงทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
ดื่มง่าย ไม่ระคายคอ และที่สำคัญรส(เหล้า)ไม่แรงคะ
จึงเป็นเสน่ห์ใส ๆ ที่ครองใจคอดริ๊งค์ไปทั่วโลกนั่นเอง!

ปล.Mojito เป็นศัพท์จากชนเผ่าในประเทศคิวบา
มาจากคำว่า “โมโจ” ซึ่งแปลว่า “ร่ายเวทมนต์”





แก้วนี้ชิว ๆ แบบอารมณ์ทะเล!!!
พีนา โคลาดา ( Pina Colada)
จัดเป็น Cocktail ดับร้อนประจำชาติเปอร์โตริโก้
จากทะเลย่านคาริบเบียน ข้ามน้ำ ข้ามชายหาด
แล้วขึ้นฝั่งไปโด่งดังตามผับ บาร์ทั่วมุมโลก
โดยเฉพาะช่วง Summer ร้อนตับแล่บ
Cocktail นี้สามารถสร้างฟิวล์แบบชิว ๆ
ประหนึ่งสัมผัสลมทะเลเบา ๆ พัดโชยได้ดีทีเดียว

ความเปรี้ยวหวานของสัปปะรดแบบ tropical
บวกเหล้ามะพร้าว มีแอลกกอฮอลล์พอประมาณ
ผสมเหล้า rum  เพิ่มดีกรีสยบองศาร้อนอีกนิดหน่อย
หรืออาจเพิ่มเนื้อมะพร้าว บีบวิปปิ้งครีมโป๊ะหน้า
เพียงเท่านี้ความดสดชื่นระรื่นใจก็บังเกิดแล้วหล่ะคะ!!








Mai-Tai..รสเยี่ยมจากคาริบเบียน!!
Mai tai เป็นดริ๊งค์ที่น่าจิบรับลมร้อน
เพราะรสชาติกลมกล่อม หอมหวานอมเปรี้ยว
ตามสไตส์ผลไม้แห่งท้องทะเลคาริบเบียน!!!!!

จริง ๆ แล้ว Mai – tai อ่านออกเสียงว่า ไม-ไต หรือ ไม-ไท
เป็นภาษาของชาวตาฮีติ ในแถบหมู่เกาะทะเลคาริบเบียน
แปลว่า ยอดเยี่ยม แหล่มไปเลย อะไรเยี่ยงนี้
แน่นอน Cocktail สูตรนี้ไม่ได้เกิดบนแผ่นดินสยามอย่างเข้าใจ
แต่เป็นฝีมือของ Victor ( Trader Vic) bergron ตั้งแต่ปี 1944
ตาคนนี้เป็นบาร์เทนเดอร์และเจ้าของบาร์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา
 และ Mai Tai แก้วแรกผสมเสร็จ ได้สหายชาวตาฮีติช่วยชิม
ปรากฏว่าร้องลั่น “ Mai tai Mai tai” นาย Victor ปิ๊งชื่อนี้
จึงตั้ง Cocktail รสนุ่มมีเหล้ารัมผสมว่า Mai Tai นับบัดนั้น!

ในขณะที่ Mai Tai (ไหม ไทย)  แบบไทย ๆ
ใช้เหล้าแม่โขงชงกับน้ำสัปปะรด น้ำส้ม และ น้ำมะนาว
กลายเป็นรสชาติถูกจริตบรรดาฝรั่งตาน้ำข้าว
ที่นิยมลัลล้าแถวถนนข้าวสาร ถึงกับอุทาน “แหล่มกว่า”!!






รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์