จิบรอบโลก : 3 สปาพาดริ๊งค์!!!!

3 สปาพาดริ๊งค์!!!!

1.สปาไวน์….จิบนี้มีเคลิ้ม!!

อยากจิบไวน์ให้เคลิบเคลิ้มชวนอารมณ์เตลิด

ต้องเหาะไปเกาะญี่ปุ่นเพราะที่โน่นมีสปาไวน์

เรียกได้ว่าทั้งอาบ ทั้งแช่ ทั้งจิบกันแบบ Unlimited

“ Hakione Yunessun” คือรีสอร์ทสุดฮอตเรื่องสปา

ที่นี่มีสปา VERY แปลกให้แฟนพันธุ์ออนเซนได้ท้าทาย

แต่เป็นพระเอกของที่นี่ต้องยกให้ “สปาไวน์แดง”

เนื่องจากใช้ไวน์แดง BEAUJOLAIS NOUVEAU

เป็นสายพันธุ์ที่ชาวซามูไรนิยมจิบกันมากที่สู๊ด

ซึ่งต้องเทไวน์กว่า 1000 แกลลอนต่อวันให้แช่ตัว

นอกจากนี้ยังมีบริกรสุดสวยสุดหล่อคอยเสริฟ์ไวน์

กะให้เคลิบเคลิ้มหยดเยิ้มกันกลางสระกันเลยทีเดียว

สาเหตุสำคัญที่หนุ่มสาวญี่ปุ่นนิยมชมชอบสปาไวน์

เชื่อว่าแช่ไวน์แดงทำให้ผิวเปล่งปลั่งเหมือนคลีลิโอพัตรา

แต่เด็ดสุดคือเชื่อว่าไวน์แดงเป็นเคล็ดลับกระตุ้นอารมณ์สยิว

เพราะไวน์แดงมีสารเร้นลับช่วยปลุกเร้าเลือดให้พลุ่งพล่านนั่นเอง!!

ราคาค่างวดแช่สปาไวน์องุ่นเฉียด 1200 บาทต่อคน!!

2.สปาช็อกโกแลต...เพิ่มพลัง SEX!!

ความลับที่ไม่ลับของช็อกโกแลต

คือ มีสารบางตัวกระตุกอารมณ์รักให้คึกคัก

บางคนรู้สึกเหมือนตกในห้วงความรักตลอด

โดยเฉพาะช็อกโกแลตดำเอาแบบขมปี๋นั่นแหละเด็ด!!

จึงไม่แปลกที่ช็อกโกแลตเป็นตัวแทนของวาเลนไลน์

จึงไม่แปลกที่ช็อกโกแลตเป็นตัวแทนของพลัง LOVE

และไม่แปลก….

หากมีคนหัวใสคิดจะเปิดสปาช็อกโกแลตเอาใจหนุ่มสาว!!

สปาช็อกโกแลตเปิดให้ทั่วทั้งยุโรปและญี่ปุ่น

แต่ดังสุด ๆ ต้องไปแช่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิต

เพราะประเทศนี้คือต้นตำรับช็อกโกแลตระดับโลก

เริ่มต้นอาบน้ำอุ่น ๆ 3o นาที

ตามด้วยนวดตัวน้ำมันโกโก้  45 นาที

ปิดท้าย 30 นาทีแช่ตัวในช็อกแลตและวิปปิ้งครีม!!

เบ็ดเสร็จ 105 นาทีต้องจ่ายเงินเฉียด 10000 บาท!!

เพื่อแลกกับความสุขให้ไฟสนุกลุกพรึ่บ-เท่านั่นเอง!!

3.สปาไวน์เบียร์….จิบนี้มีมึน!!

มาเยือน “กรุงปราก” ….

เมืองหลวงสุดโรแมนติกแห่งสาธารณรัฐเช็ก

ต้องแวะสปาเบียร์ ว่ากันว่าเป็นกิจกรรมห้ามพลาด

เพราะที่นี่คือต้นตำรับของสปาฟองเบียร์ที่ขึ้นชื่อที่สุด

ทุกโรงแรมจะเล็ก จะใหญ่ในย่าน Slezke Beskydy ต้องมี

ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เบียร์ Bier Bottich เป็นสายพันธุ์พิเศษ

ทำให้น้ำเบียร์ที่สีอำพันสวยงาม หอมกลิ่นดอกฮอบส์อ่อน ๆ

และที่สำคัญหากอดใจไม่ไหว ก็ยกซดได้เลย !!!!!!

บริการสปาเบียร์มีหลากหลายบริการให้เลือกสรรคะ

อยากลัลล้าแบบหมู่ ๆ ก็เชิญอ่างสปาจากุซซี่

แต่หากอยากโรแมนติกสวีทตี้แบบสองต่อสอง

ก็เชิญแช่ฟองเบียร์ให้ตัวเบียดกันในถังไม้โอ๊ค

ซึ่งจะแช่แว่บในน้ำเบียร์อุ่น ๆ ที่อุณหภูมิ 37 องศา

เชื่อกันว่าการให้เบียร์ซึมซาบเข้ารูขุมขน

จะให้หลอดเลือดและผิวพรรณเปล่งปลั่ง

เพื่อให้ผู้ใช้บริการตื่นตัวและสดชื่นกว่าที่เคย!!!

ราคาค่าบริการมีตั้งแต่ 400 ไปจนถึง 2000 บาท

ตามเกรดของโรงแรม และ ชื่อชั้นของเบียร์!!!!

รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์

จิบมาเล่า : 6 เครื่องดื่มหรรษาต้อนรับคริสต์มาส!!

จิบมาเล่า : 6 เครื่องดื่มหรรษาต้อนรับคริสต์มาส!!

และแล้ว...
ก็ถึงเทศกาลคริสต์มาสสุดหรรษาไม่ว่าจะเด็กเล็ก หรือ ผู้ใหญ่ก็ต่างรอคอย
นอกจากเราจะนึกถึงหิมะขาวๆ...
ซานต้าพุงพุ้ย.....
กวางเรนเดียร์แสนน่ารัก....
และ ของขวัญกองโตแล้ว
เรายังเผลอนึกถึงเครื่องดื่มที่มีกลิ่นอายแห่งคริสต์มาส  ชวนจิบให้อบอุ่นหัวใจอีกด้วย
และนี่คือ 6 เครื่องดื่มขาประจำแห่งเทศกาลคริสต์มาส และ อาจลากยาวไปถึงปีใหม่นู่น!

1.Mulled Wine : ไวน์แดงอุ่นรัก

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่สวีเดน และอีกหลายประเทศในแถบนอร์ดิก

นิยมจิบเครื่องดื่มที่ทำจากไวน์แดง     ที่สำคัญต้องอุ่นให้ร้อน ๆ เข้าไว้

จากนั้นผสมเครื่องเทศ น้ำตาลเล็กน้อย และ ใส่ผลไม้เช่นส้มฝานบาง 

ภาษาสวีดิชจะเรียกดริ๊งค์นี้ว่า "Glögg" แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษมันคือ  "Mulled wine"

เวลาเสิร์ฟเราจะได้ไออุ่นจากแอลกอฮลล์ + เครื่องเทศ ซึ่งเพิ่มความร้อนให้ร่างกายได้ดีนัก

จัดเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับช่วงเวลาเฉลิมฉลองรับลมหนาวอย่างเช่นเทศกาลคริสต์มาส!!

2.Christmas Spiced Tea : ชาร้อนดับหนาว!

ถ้าไม่โปรดปรานแอลกอฮอล์ดับลมหนาว  ต้องลองจิบดริ๊งค์แก้วนี้ค่ะ
นี่คือ Christmas Spiced Tea หรือ ชาร้อนmixเครื่องเทศ

เพราะเครื่องดื่มแก้วนี้ ชงจากใบชาดำคุณภาพเลิศ ใส่เปลือกอบเชย

ผสมผสานฝักวนิลลาหอมๆ  ผิวมะนาวและเปลือกส้มขูดจนละเอียด

เติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งเพื่อรสชาติที่กลมกล่อมคล่องคอคล่องใจยิ่งขึ้น

อย่าลืมเสริฟ์คู่กับขนมปังขิง หรือ คุ๊กกี้น่ารักๆ รับประกันได้อารมณ์คริสต์มาสอย่างแรงส์

3.Wassail : น้ำสุขภาพข้ามปี!

ในช่วงรื่นเริงวันคริสต์มาส  คนอังกฤษสมัยโบราณนิยมกระดกซด  Wassail

ซึ่งคล้ายๆ  น้ำพันซ์  โดยมีส่วนผสมหลักที่ขาดไม่ได้ คือ APPLE CIDER หรือ แอปเปิ้ลหมัก

และผสมผสานน้ำสับประรด ,น้ำมะนาว และสารพัดเครื่องเทศเพื่อปรุงความหอมให้ติดจมูก

Wassail เป็นเครื่องดื่มแห่งการผลิดอกออกผล และ เก็บเกี่ยวแอปเปิ้ลป่าของชาวบ้านชาวไร่

จนกลายเป็นสัญลักษณ์คริสต์มาสของการมีสุขภาพที่ดี  & การงอกงามข้ามปีอย่างสมบูรณ์!!

4.Peppermint Hot Chocolate : ช็อกโกแลตหลั่งสุข

ช็อกโกแลตร้อน ๆ  หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นเปบเปอร์มิ้นต์สักแก้ว..เริ่ดสุดๆค่ะ

ชาวยุโรปเชื่อกันว่าช็อกโกแลตนี่แหละ คือ  ยาอายุวัฒนะทำให้สุขภาพแข็งแรง

ที่สำคัญมีสารกระตุ้นต่อมเอ็นดอร์ฟิน(Endorphin) หลั่งความสุขทุกเทศกาล

และเพื่อความเก๋ไก๋ต้องจัดเต็มให้ครบเซ็ตเสิร์ฟคู่กับลูกกวาดไม้เท้าสีสวยเคียงแก้วช็อกโกแลต

ซึ่งเมนูนี้จะทำเองชงเองที่บ้านหรือตรงรี่อุดหนุนช็อกโกแลตร้อนอร่อย ๆ ที่ Starbucks ก็ง่ายดี!

5.Eggnog : ใส่ไข่ในคำอวยพร!

นี่คือ เครื่องดื่มระดับ A MUST ของเทศกาลคริสต์มาสอย่างแท้จริง

เป็นตัวแทนของคำอวยพรให้มีสุขภาพดีในทุกเทศกาลสำคัญ ตั้งแต่ขอบคุณพระเจ้าไปจนถึงปีใหม่

ส่วนผสมหลักๆ คือ นม ครีม และไข่ นอกจากนั้นก็มี น้ำตาล ,อบเชย , ลูกจันทร์เทศ  MIX อยู่ในนั้น

Eggnog มี 2 สูตรทั้งแบบชิลล์ไม่มีแอลกฮอลล์  ไปจนถึงระดับ Hardcore ใส่ alcoholic เต็มที 
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น  brandy, rum, whiskey  จัดเป็นความสุขเล็กๆ ในช่วงคริสต์มาสแสนอบอุ่น

6.Champagne : แชมเปญฟองหรรษา!

Champagne คือ ไวน์ฟองฟู่จากแคว้น Champagne ในฝรั่งเศส

เป็นเครื่องดื่มที่เกิดมาเพื่อฉลองหรรษาอย่างเทศกาลคริสต์มาสจริงๆ

ความงามของพรายฟองที่ผุดจากก้นแก้วเป็นเส้นสายเข้ากันดีกับบรรยากาศเฉลิมฉลอง

ที่สำคัญต้องเสิร์ฟแชมเปญต้องมาแบบเย็นเฉียบ    ที่อุณหภูมิประมาณ 6 องศาเซลเซียส

และต้องใช้แก้วใสทรงสูงที่มีปากแคบเหมือนดอกทิวลิป จะทำให้ปริมาณฟองฟู่ๆน่าตื่นตา

รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์