5 ต้องจิบเมื่อไปลาว!!!
จิบที่ 1 : กาแฟลาว
…เข้มติดอันดับโลก!!
ร่ำลือหนาหูว่า
“กาแฟลาว”
มีรสชาติเป็นหนึ่งในยุทธจักร
ทั้งกลมกล่อม หอมละมุน
เหนือกาแฟไทย!!
เพราะฉะนั้นจึงเป็นอีกดริ๊งค์ที่ต้องไปจิบให้ได้
กาแฟลาวมีสายพันธุ์มาจากอาราบิก้า
ปลูกเป็นกลุ่มเป็นก้อน
ณ.ภูผาโบลาเวน
แห่งเมืองปากเซ
ด้วยความสูง 1200 เมตร
เป็นดินภูเขาไฟเก่า
อากาศหนาวเย็น 25 องศา
และใช้เทคนิคสุดคลาสสิคจากประเทศฝรั่งเศส
ทำให้กาแฟลาวมีรสชาติล้ำลึกเหนือระดับ
ติดอันดับ 1 ใน 3 ประกวดกาแฟโลก!!!!
จนกูรูด้านกาแฟเปรียบเปรยกาแฟลาวดังนี้…
“ถ้าท่านเป็นคนสูบบุหรี่
กาแฟไทย
กลิ่นและรส เปรีนยเหมือน Marlboro Light
ส่วนกาแฟลาว กลิ่นและรส
คล้าย Marlbora Red ”
นั่นหมายถึง
หอมกลิ่นเดียวกันแต่หอมกว่า
รสชาติเข้มเหมือนกันแต่เข้มกว่า!!!!!!!!!
ถ้าไปลาวแนะนำให้ไปจิบกาแฟที่
JOMA
เป็นร้านกาแฟลาวสไตส์ฝรั่งเศสแก้วละ
17000 กีบ
บรรยากาศเลอเลิศทั้งเวียงจันทร์
และหลวงพระบาง
แต่ถ้าอยากซื้อกลับมาชงที่บ้าน
ลองยี่ห้อ “ดาว ”
เป็นกาแฟลาวแท้
แต่เจ้าของเป็นคนไทย
รสชาติรับประกันเยี่ยมคะ!!
จิบที่ 2 : น้ำเต้าหู้…จิบเท่ ๆ @ เซ็นเตอร์พ้อย์ (ลาว)
หากอยากเบิ่งหญ้าอ่อน ๆ วัยรุ่น ณ.เวียงจันทร์
ต้องมุ่งตรงไปที่ถนนขุมบูลม ( Khoun Bouloum ) เท่านั้น
ณ.จุดนี้ใกล้ศูนย์วัฒนธรรม เป็นแหล่งคอนเสิร์ตวัยรุ่นลาว
และเมื่อโชว์จบ คลื่นชนคนวัยรุ่นจะแห่หาที่นั่งเม้าส์เม้าส์
โดยมีเป้าหมายประจำใจ นั่นคือ ร้านน้ำเต้าหู้สุด hip นั่นเอง
ดริ๊งค์ยอดนิยมสำหรับวัยละอ่อนที่นี่ ต้อง น้ำเต้าเย็นใส่เฉาก๊วย
รสชาติหวานไม่มาก แต่มันส์ได้ใจ และเฉาก๊วยต้องกรุบกรอบ
ราคาสบายกระเป๋าแก้วละ 3000 กีบหรือ 12 บาทเท่านั้น!!
หากอยากจิบเต้าหู้ให้ครบสูตรวัยรุ่นเวียงจันทร์
ต้องหม่ำเคียงคู่กับซาลาเปาเล็กจิ๋วอีกสักลูก อร่อยปากทีเดียวคะ
นอกจากเราจะได้รสชาติน้ำเต้าหู้สุด love ของชาวเวียงจันทร์แล้ว
เรายังได้เพลินตากับไลฟ์สไตส์ของวัยรุ่นที่นี่
แม้ไม่หวือหวาสะเด็ดสะเด่าเท่าเซ็นเตอร์พ้อย์แบบบ้านเรา
ไม่มีสายเดี่ยวเอวลอย แต่อาจเห็นแม่หญิงนุ่งซิ่นแทนซะ
ทั้งหมดรับประกัน รสชาติม่วนซื่นที่ไม่เหมือนใครในโลกนี้!!!!
จิบที่ 3 :ลาวเกรีย…ค็อกเทลเด็ด จาก เมืองลาว!!
อย่านึกว่าเวียงจันทร์ เมืองหลวงแห่งสปป.ลาว
จะปราศจากรสชาติค็อกเทลสไตส์ตื๊ด ๆ
กระแทกปาก กระแทกใจคอดริ๊งค์นะคะ
เพราะ “ขอบใจเด้อ ” คือชื่อผับ very chill
ตั้งอยู่แถว ๆ วงเวียนน้ำพุ (ตอนไปปิดซ่อมพอดี )
เป็นใจกลางรวมพลนักท่องเที่ยวแบบมีสไตส์
ณ.จุดนี้ มี “ลาวเกรีย” ค๊อกเทลประจำถิ่นเวียงจันทร์
จัดเป็น 1 ใน 5 ดริ๊งค์ที่ต้องลองจิบเมื่อไปเที่ยวลาว!!
“ลาวเกรีย”(Laogria) เป็นค็อกเทลดัดแปลงจาก “ Sangria”
ซึ่ง “แซงเกรีย” ก็คือ เครื่องดื่มคลายเคลียดสัญชาติสเปน
เป็นไวน์แดงหรือขาวผสมผลไม้สด เช่น ส้ม มะนาว แอปเปิ้ล
เติมหวานด้วยน้ำผึ้ง ปรุงอีกนิดด้วยบรั่นดีหรือสปิริต
ปิดท้ายด้วยโซดาและน้ำแข็งแค่นี้ก็ชุ่มฉ่ำล้ำเลิศแล้วคะ
สำหรับ “ลาวเกรีย” ปรับแปลงสูตรให้เข้าอารมณ์ลาว-ลาว
เปลี่ยนผลไม้ฝรั่งเป็น กล้วย สัปประรด และหั่นมะนาวเป็นแว่นๆ
เท่านี้เองคะ เราก็จะได้ค็อกเทลจิบทีไรหวานหอมสดชื่น!!
“ลาวเกรีย” เสริฟ์เป็นเหยือก ซึ่งจิบกันได้หลายแก้วอยู่
ราคาก็ไม่โหดร้ายประมาณ 20000 กีบหรือ 100 กว่าบาท!
จิบที่ 4 : เบยลาว ….เบยฮักของคนลาว!!!
เยี่ยมเยี่ยมเมืองลาวให้ครบสูตร
ต้องลองจิบเบียร์ลาว เบียร์แห่งความม่วนซื่น
จัดเป็นเบียร์ที่คนลาวทั้งหลาย ผูกใจฮัก
และเป็นเบียร์ที่นักท่องเที่ยวพิสวาสยิ่งนัก
เพราะทุกครั้งที่จิบ จะพบเจอมิตรจริงใจตลอดโมง
เบยลาว หรือ เบียร์ลาว
เป็นเบียร์ถือหุ้นโดยรัฐบาลลาว 50 เปอร์เซ็นต์
ส่วนอีกครึ่งมีเบียร์แบรนด์นอก Carlberg ถืออยู่
รสชาติของเบียร์เกิดจาก 2 สัดส่วนสำคัญ
คือ น้ำบาดาล (ไม่ใช่น้ำโขงอย่างข่าวลือ)
และ ข้าวลาว นำมาหมัก ต้ม และกลั่น
จนได้สูตรคลาสสิค มีแอลกฮอลล์ 5 เปอร์เซ็นต์
รสชาติออกนุ่มหวานนิด ๆ หอมใบแบบฉบับเฉพาะ
ถ้าเทียบกับเบียร์ไทยอย่างลีโอ สิงห์ จัดว่าจืดมั๊ก ๆ
ราคาประมาณ 9 พันกีบถึง 10 พันกีบต่อขวด!!
แต่หากอยากเพิ่มดีกรีรสชาติให้เข้มขึ้น
แนะนำเบียร์ลาวสูตร STOUT หรือเบียร์ดำ
แพงอีกนิด ดีกรีสูงขึ้น 6.5 เปอร์เซ็นต์
แต่รสนุมนวล น่าจะเหมาะอุ้งปากคอดริ๊งค์ชาวไทยกว่าเยอะ!!
จิบที่ 5 : เหล้าไห…ดูดจนช้างคึก!!!
LAO HAI หรือเหล้าไหเป็น 1 ในจิบสุด amazing
เรียกได้ว่าสักครั้งในชีวิตต้องลองดูดให้ระรื่นคอ
จริง ๆ LAO HAI คือ ฝาแฝดกับเหล้าอุในอีสาน
เป็นสุรา OTOP ทำกันเอง ยกซดกันเองเป็นปกติ
ใช้รับแขกเฮือน หรือสังสรรค์ในงานบุญ
พบเห็นจนเจนตา แถบนครพนม มุกดาหาร
ภาษาอีสานเรียกการดูด LAO HAI ว่าชนช้าง!!!!!!
เพราะยิ่งดูดก็ยิ่งแรง ยิ่งดูดก็ยิ่งแลเห็นช้างออกศึก!!
LAO HAI เป็นการหมักข้าวเหนียวพันธุ์ดีกับแกลบ
ใส่ไหเล็กจิ๋วกระจิดริด และปิดปากไหด้วยใบตอง
ผนึกให้แน่นด้วยขี้เถ้าปั้นเหนียว ทิ้งไว้ 3 อาทิตย์
ขั้นตอนการดูดก็สุดแสนอัศจรรย์
เพียงเปิดฝาไห แล้วผสมน้ำเปล่า
หรืออยากได้รสชาติซาบซ่า ลองเทสไปร์ท!!
แต่กลัวเมาไม่มันส์
ลองเติมเหล้าโรง 40 ดีกรี
รับประกันถ้าไม่คอพับคาไห ก็เมาตาตั้ง!!!
จากนั้นรอ 10 นาทีให้รสชาติมันจูนกันสักพัก
จากนั้นนำไม้ซาง หรือต้นอ้อ เป็นไม้หลอดยาว
จุ่มแล้วดูด แต่อย่าบ้าระห่ำดูดเศษ ๆ ใต้ไห
เพราะมันคือแหล่งรวมหัวเชื้อแห่งความแรงส์!!
แล้วเราสัญญาจะสรรหาเรื่องดี ๆ มานำเสนออย่างต่อเนื่อง
ปล.ตอนนี้ facebook ใจร้ายมาก มัน block เราโดนไม่ทราบสาเหตุ
ขอแรงเพื่อน ๆ ช่วย add firend ด้วยนะคะ
เพราะอยากให้ได้อ่านเรื่องดี ๆ กันเยอะ ๆ...ขอบคุณคะ
รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ. ไทยแลนด์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น