จิบมาเล่า : 10 ยอดสุรา ในยุทธจักรมังกร!

จิบมาเล่า : 10 ยอดสุรา ในยุทธจักรมังกร!

ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน

ต้องเฉลิมฉลองด้วย 10 ยอดสุรา MADE IN CHINA

เหล่าสหายพร้อมยกจอกหรือยัง....อ้าว กัมปาย!!!(ชนแก้วแบบสำเนียงจีน)

1. เหมาไถ : เหล้า ชาติ มังกร!!

เป็นเหล้าจีนมีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก

และชาวมังกรเชิดชู”เหมาไถ”เป็นเหล้าประจำชาติ

จนมีสมญานามว่า “ กั๋วจิ่ว เหมาไถ”  หมายถึง “ เหมาไถคือเหล้าประจำชาติ ” 

ของเค้าดีจริงขนาดอดีตผู้นำรัฐบาลจีน ตั้งแต่ ท่านเหมา ท่านเติ้ง ยกให้เป็นเหล้าในดวงใจ

เท่านั้นยังไม่พอ “เหมาไถ”ยังเป็นเหล้า VIP สำหรับเวลคัม

บุคคลสำคัญของรัฐบาลจีนอีกหลายต่อหลายคนด้วย!!!

ส่วนประชาชนนิยมใช้ในพิธีมงคลตั้งแต่รวมญาติ ขึ้นบ้านใหม่ ยัน ลูกแต่งผัว

จนมียอดจำหน่ายสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (34000 ล้านบาท)!!!!

ส่วนรางวงรางวัลไม่ต้องพูดถึงคว้าเหรียญทองมาหลายเวที

เพราะฉะนั้นการันตีรสชาติและคุณภาพว่าเยี่ยมยุทธ์เหนือใครๆ!! 

2.อู่เหลียงเย่ : หอมแรงได้ใจ

“อู่เหลียงเย่”กลั่นจากเมืองอี๋ปิน ในมณฑลเสฉวน

 ว่ากันว่าเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องเหล้า ๆ มากว่า 3,000 ปีที่แล้ว

และพัฒนาอย่างแบบเขย่งก้าวกระโดดในสมัยราชวงศ์ฮั่น และ ราชวงศ์ถัง

จัดเป็นเหล้าขาวที่โดดเด่นเรื่องกลิ่นเพราะหอมแรงมั๊ก ๆ

นอกจากกลิ่นที่พุ่งติดจมูกแล้ว ดีกรีเหล้าก็แรงไม่แพงกัน

ขนาดเบา ๆ ยังล่อเข้าไปตั้ง 45% ถ้าคอหอยไม่แข็งอาจเดี้ยงได้

ที่สำคัญเหล้า“อู่เหลียงเย่” มีเอกลักษณ์  4 ประการ

คือ ต้องกลิ่นหอมแรง ใสไร้สี มีรสหวานปนเปรี้ยว และมีกลิ่นหอมติดปากนาน

ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง .. ขอบอกคะว่าเป็นเหล้าอู่สไตส์เซิ่นเจิ้น(ของปลอมคะ)!!

3.เจี้ยนหนานชุน : กวียังหลงใหล

นี่คือยอดสุราระดับกวีเอกยังหลงใหล!!!

มีเรื่องเล่าอยู่ว่า”กวีเอกหลี่ ไป๋” สมัยราชวงศ์ถัง

ครั้งหนึ่งยังเคยขายเสื้อคลุมขนสัตว์ เพื่อนำเงินไปแลกซื้อสุราสกุลนี้

ซึ่งถ้ากวีเอกหลี่ ไป๋ยังมีชีวิตอยู่ คงไม่คิดจะหนีห่างไกลจากยอดสุรานี้แน่นอน!!

เหล้ายี่ห้อนี้เป็นสุราขาว ให้ความรู้สึกเหมือนมีเนื้อ มีหนัง ขณะซ่านอยู่ปาก แต่ไม่กัดลิ้น

มีกลิ่นแรงแต่เย้ายวนใจ เคยมีคนชื่นชมในกลิ่นว่า”เสมือนลมที่อบอุ่น”

ปัจจุบัน”เจี้ยนหนานชุน” มี 2 ความแรงให้เลือก 2 ดีกรี คือ 52 และ 60 !!!

4.เกาเหลียง : กลิ่น รส สัมผัส ชวนวูบวาบ!

"เกาเหลียง" แปลตรงตัว คือ เหล้าที่ทำจากข้าวลูกเดือย

เป็นเหล้าที่กำเนิดตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง

ปัจจุบันนิยมสุดขีดในประเทศไต้หวัน ถึงขนาดบางรุ่นต้องเปิดจอง

ล่าสุดเปิดตัวเหล้าข้าวฟ่างที่ใช้เวลาหมักเก็บนานถึง 16 ปี

ราคาขวดละ 20,000 เหรียญ(NT )  แพงที่สุดในประวัติศาตร์

และ ผลิตปีละ 1,000 ขวดเท่านั้น ทุกขวดมีใบรับประกันและหมายเลขประจำขวด

ส่วนรสชาติวาบแรกที่ลงคอ ขอบอกว่าร้อนวูบขึ้นมาทันที

แต่พอผ่านไปสักพักกลิ่นของลูกเดือยและข้าวฟ่างจะฟุ้งขึ้นจมูกแบบเนือง ๆ !!

5.ซีเฟิ่ง : หอมไกลไป 10 ลี้

เป็นเหล้าสุราเลื่องชื่อไป 10 ทิศ  หอมหวลไป 10 ลี้

ใครต่อใครที่ได้ยกจอกลิ้มลองต้องติดใจถวายตัวให้สุรา”ซีเฟิ่ง”

“ซีเฟิ่ง”จัดเป็นโอทอปของ อำเภอ เฟิ่งเสียง มณฑลส่านซี ภาคกลางของแดนมังกร

กลั่นกันตั้งแต่ราชวงศ์โจว และ ราชวงศ์ฉิน มีประวัติยาวนานกว่า 2600 ปี

จัดเป็นเหล้าขาวอีกยี่ห้อที่หอมไกล หอมนาน หอมติดปากจริง ๆ คะ!!

6.หลูโจวเหล่าเจี้ยว : เหล้า รักษา โรค !!

ในอดีต....

สุรา”หลูโจว”ร่ำลือกันว่าเป็นยารักษาการระบาดของโรคห่า

สกัดและกลั่นจากสมุนไพรกว่า 100 ชนิด

จากนั้นนำมาหมักกับน้ำในบ่อโบราณ ณ.เมืองหลูโจว

ซึ่งสูตรสุราปรุงยานี้ได้สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นต่อรุ่น

นอกจากเชื่อว่าเป็นยาทิพย์แล้ว “หลูโจว”ยังมีกลิ่นหอมดุจสตรีพรหมจรรย์

รสชาติหวานกลมกล่อม ถูกปากชาวมังกรจนต้องบอกต่อ

ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 4 สุราเยี่ยมยุทธ์จากเวทีประกวดทั่วแผ่นดินจีน

ปัจจุบัน เหล้า”หลูโจว”พัฒนาหลากหลาย VERSION  เกือบ 15 สูตร

ตั้งแต่ดีกรีชิว ๆ ยันดีกรีแสลงหอคอย แต่เจ๋งสุดต้องยกให้สูตร”เหล่าเจี้ยวเท่อชวู”

7.เฝินจิ่ว : 3 ผสานระดับเซียน!!

เพราะกลิ่นที่หอมจรุงใจ หอมอ่อนโยน และหอมนาน

จนสหายแห่งกวีนาม “ตู้ มู่”  ต้องชื่นชมด้วยเปรียบเปรย

ว่าผีในวันเช้งเม้งยังนึกอยากจิบสุรา”เฝินจิ่ว”อีกครั้งเหมือนตอนมีชีวิต!

“เฝินจิ่ว”จัดเป็นเหล้าประจำหมู่บ้านซิ่งฮวา ฮอตติดดาวตั้งแต่โบราณ

กรรมวิธีการกลั่นน้ำเมาก็ยอดเยี่ยม และเป็นต้นกำเนิดการกลั่นสุราในแดนมังกร!

เด่นจริงอะไรจริงด้วยปัจจัยระดับเซียนทั้ง  3 ประการ คือ

สี สวย ใสกระจ่าง ดุจแม่น้ำแห่งสรวงสรรค์

กลิ่น หอมเป็นเอกลักษณ์ ต่างจากเหล้าในแถบใต้ของจีนที่หอมแรงชวนมึน

และ รสชาติ กลมกล่อม เพราะมีน้ำพุหวานเป็นส่วนผสมให้ติดใจ!!

8.หยางเหอต้าชวู : ยอดน้ำเมาแห่งลุ่มน้ำแยงซีเกียง!

“กลิ่นหอมทำให้ต้องรีบลงจากม้า

รู้รสชาติแล้วต้องรีบหยุดเดินทาง

กลิ่นหอมของสุราลอยอวลอยู่ในอากาศ

นกสามัญดมกลิ่นยังกลายเป็นหงษ์

กระทั่งของเสียที่กลั่นทิ้งลงไปในน้ำ

หากปลากินยังแปลงร่างเป็นมังกรในฉับพลัน”

นี่คือบทกวีร่ายถึงน้ำกลั่นสุราสุดอัศจรรย์ยี่ห้อ “หยางเหอต้าชวู”

เป็นสุราไร้สี โปร่งใส กลิ่นหอมแรง รสชาติหวานนุ่มนวล  

จัดเป็นน้ำเมาอันดับหนึ่งแห่งลุ่มแม่น้ำแยงซีทางตอนใต้

ปัจจุปัน “หยางเหอต้าชวู” มี 3 ดีกรีคือ 64 ,61 และ 55 ไว้รองรับคอเหล้า

9.กู่หลันหลาง : สุราแห่งความล้ำลึก

ที่ไหนมีน้ำพุดี ที่นั่นย่อมยอดแห่งสุรา

โดยเฉพาะแหล่งผลิตเหล้า”กู่หลันหลาง”โอบอ้อมด้วยภูเขาสูงชัน

ท่ามกลางหุบในเขาอำเภอกู่หลัน มณฑลเสฉวน

มีน้ำพุใสสะอาด รสหวาน ชาวบ้านเรียกว่า “น้ำพุหลาง”

ซึ่งน้ำพุนี้ คือ ส่วนผสมหลักที่หมักพร้อมกับข้าวสาลีพันธุ์ที่ดีที่สุด

หมัก 2 ครั้ง สกัดอีก 7 ครั้ง รวมเป็นเวลา 9 เดือน

จากนั้นเก็บบ่มในถ้ำลึก ภายใต้อุณหภูมิ 18-20 องศา อีก 3 ปี

จนกลายเป็นสุดยอดเหล้าแห่งปฐพีที่มีกลิ่นล้ำลึกจากถ้ำและน้ำพุศักดิ์สิทธิ์!!!

10.กู่จิ่ง : สุราแห่งจักรพรรดิ น้ำเมาของโจโฉ!!

"อยู่ต่อหน้าสุรา ก็ต้องร้องเพลง ชีวิตของคนไม่ยืนนาน"

คือบทกวีอันทรงพลังของโจโฉ หนึ่งในตำนานแห่ง 3 ก๊ก

ณ .อำเภอเฉียว(ชื่อเดิมของอำเภอเหา) เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของโจโฉ

ณ.ที่นี่ โจโฉ  VERY ภูมิใจในรสสุราของพื้นที่ตนมาก

จึงมักชื่นชมตลอด WAY ว่า “สุราของบ้านเกิด หวานปานน้ำผึ้ง”

เคล็ดลับความหวานของ”กู่จิ่ง”อยู่ที่น้ำจากบ่อน้ำโบราณ

ด้วย น้ำใสสะอาด อุดมด้วยแร่ธาตุ ดื่มแล้วมีรสชาติหวานชื่นใจ

เมื่อนำน้ำจากบ่อนี้มากลั่นสุรา ทำให้สุรามีกลิ่นหอม รสชาติหวานชื่นมิรู้ลืม

ถึงขนาดต้องนำขึ้น ถวายแด่ จักรพรรดิหลายยุคหลายสมัย

 ซึ่งชื่อ“กู่จิ่งก้งจิ่ว”มีความหมายว่า สุราทูลถวายจากบ่อน้ำโบราณ

สุรากู่จิ่ง มีเนื้อใส กลิ่นหอมเย็นเหมือนกล้วยไม้กลางป่าฝน

ดื่มแล้วจะรู้สึกซาบซ่านหอมหวานอยู่ในปากเป็นเวลานาน

ปัจจุปันเหล้า”กู่จิ่ง”มีดีกรีอยู่ที่ 60 % และยังมีสรรพคุณให้โลหิตหมุนเวียนดีขึ้นอีกด้วย!

ปล.การกำเปยของชาวจีนค่อนข้างน่ากลัวถ้าไม่แน่จริงห้ามชนแก้วหรือกำเปยเด็ดขาด
เพราะกำเปย มีค่าเท่ากับ ต้องหมดแก้วมีเท่าไหร่ต้องดื่มให้หมด 

Source By iguide.travel
รวบรวม & ปรุงแต่งรสชาติข้อมูล BY จิบชิมดื่ม ณ.ไทยแลนด์